วิธีทำความสะอาดขวดโหลแก้ว ให้สะอาดใสไร้เชื้อโรค
ขวดโหลชนิดแก้วใส และเหยือกน้ำ เป็นภาชนะที่มีทั้งส่วนสูง ส่วนโค้งเว้า ซึ่งเป็นลักษณะภาชนะที่ทำความสะอาดลำบากอยู่เหมือนกัน แต่ใครที่กำลังคิดอยากจะทำความสะอาดขวดโหล และเหยือกแก้วอยู่พอดี เราก็มีวิธีทำความสะอาดให้ปราศจากเชื้อโรคมาฝาก เผื่อใครกำลังอยากจะทำความสะอาดขวดโหลเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ หรืออยากจัดปาร์ตี้ด้วยเหยือกแก้วสวย ๆ ลองไปดูกันนะคะ1. เช็กร่องรอยชำรุด
ก่อนจะทำความสะอาดขวดโหล ควรจะสำรวจสภาพการใช้งานของขวดโหลและเหยือกให้เรียบร้อย เช็กดูว่ามีร่องรอยแตกร้าว หรือส่วนฝาของขวดโหลหักชำรุด ปิดไม่สนิทบ้างหรือเปล่า เพราะจุดชำรุดเหล่านี้จะเปิดโอกาสให้เชื้อโรคเล็ดลอดเข้าไปในขวดโหลและเหยือกได้ อาหารที่เราจะใส่ในขวดโหล ก็จะปนเปื้อนฝุ่นและเชื้อแบคทีเรียไปด้วย
2. กำจัดคราบสกปรก
สำหรับขวดโหลอันเก่า ที่มีป้ายยี่ห้อหรือราคาติดอยู่ ให้กำจัดกระดาษกาวเหล่านี้ด้วยการนำขวดโหลไปแช่ในน้ำเปล่า 1 แกลลอน ผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง แช่ทิ้งไว้อย่างนั้นข้ามคืน ให้คราบกาวจากกระดาษหลุดล่อนออกไปจนหมด ส่วนบริเวณภายในขวดโหลให้ผสมน้ำยาล้างจานกับน้ำร้อน แล้วนำมาทำความสะอาด จากนั้นก็ล้างน้ำให้สะอาดจนแน่ใจว่าน้ำยาล้างจานไม่ตกค้างอยู่อีก
3. ต้มฆ่าเชื้อ
หลังจากล้างขวดโหลและเหยือกแล้ว ให้คุณหาหม้อขนาดใหญ่พอจะใส่ขวดโหลได้มาตั้งไฟต้มน้ำให้ร้อนจัด และกะปริมาณน้ำให้มากพอจะท่วมขวดโหลได้สูงประมาณ 2 นิ้ว จากนั้นก็ค่อย ๆ หย่อนขวดโหลหรือเหยือกลงไปในหม้อ ปิดฝาหม้อ แล้วต้มขวดโหลจนน้ำเดือดอีกครั้ง หรือต้มนาน 10 นาที นับตั้งแต่น้ำเริ่มเดือด
4. เช็ดให้สะอาด
เมื่อปิดไฟหม้อต้มน้ำแล้ว ให้ปล่อยขวดโหลแช่ทิ้งไว้อย่างนั้น จนกว่าน้ำจะลดอุณภูมิลงจนอุ่น ๆ พอจะหยิบขวดโหลออกมาได้ ซึ่งระหว่างรอก็ควรเตรียมผ้าสะอาดสำหรับเช็ดขวดโหลเอาไว้ด้วย เมื่อยกขวดโหลออกมาจากหม้อแล้ว จะได้เช็ดขวดโหลได้ทันที
5. ทำความสะอาดฝาขวดโหล
ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อขวดโหลเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาทำความสะอาดฝาขวดโหลให้หมดจดและปลอดเชื้อโรคเช่นกัน ซึ่งคุณจะใช้วิธีเดียวกับขั้นตอนทำความสะอาดขวดโหล มาจัดการกับฝาขวดโหลก็ได้ แต่สำหรับขวดโหลที่มีลักษณะเป็นคานเหล็ก ให้หาวิธีถอดเหล็กออกก่อน แล้วค่อยนำส่วนฝามาทำความสะอาด
ในเมื่อเราจะนำขวดโหลและเหยือกไปใส่อาหาร และเครื่องดื่ม ก็ต้องใส่ใจทำความสะอาดภาชนะให้สะอาดหมดจด ปราศจากเชื้อโรคที่สุด เพื่อให้เราสามารถเก็บรักษาอาหารได้นานขึ้น คงความกรอบอร่อยได้เหมือนใหม่ที่สุดด้วยเนอะ
* * * * * *
ที่มา : Kapook.comโดย : Sarapantip สาระพันทิป
ลิ้งค์ที่น่าสนใจ
Tags:
ของใช้ในบ้าน