ใบเตย |
วิธีบำรุงหัวใจและลดน้ำตาลในเส้นเลือดด้วยใบเตย
ใบเตย (Pandanus,Fragrant Pandan,Pandom wangi) หรือ เตยหอม เป็นพืชที่คนไทยรู้จักกันมานานและนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันกันมาก เนื่องจากหาได้ง่ายในประเทศไทย ราคาถูก เป็นพืชที่ให้สีและกลิ่น ไม่เป็นพิษภัยในการนำมาประกอบอาหารและทำขนม ใบเตยมีสารต่างๆ อยู่หลายชนิดและมีสารหอมที่ให้กลิ่นด้วย จึงมีผู้สนใจที่จะนำใบเตยมาใช้ประโยชน์กันมาก โดยทั่วไปจะนิยมเรียกว่า เตย แต่ในบางท้องถิ่นเรียกว่า หวานข้าวใหม่ (ภาคกลาง) ปาแนะวองิง (มาเลเซีย-นราธิวาส)ลักษณะทั่วไป
ใบเตยเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวลักษณะแตกกอเป็นพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นเป็นข้อ ใบออกเป็นพุ่มบริเวณปลายยอด เมื่อโตจะมีรากค้ำจุนช่วยพยุงลำต้นไว้ ใบเป็นใบเดี่ยวออกเป็นกระจุกเรียงสลับเวียนเป็นเกลียวขึ้นไปจนถึงยอด ลักษณะใบยาวเรียวคล้ายใบหอก ปลายใบแหลม บริเวณกลางใบเป็นร่อง ขอบใบเรียบตรง ผิวใบเป็นมัน ด้านท้องใบจะเห็นเป็นรูปคล้ายกระดูกงูเรือใบ มีกลิ่นหอม
สารสำคัญที่พบในใบเตยประกอบไปด้วยน้ำมันหอมระเหย (essential oil) และมีสีเขียวของคลอโรฟิลล์ (chlorophyll) ซึ่งในน้ำมันหอมระเหยประกอบไปด้วยสารหลายชนิด เช่น เบนซิลแอซีเทต (benzyl acetate) และแอลคาลอยด์ (alkaloid) (Fatihanim et.al.,2008) ลินาลิลแอซีเทต (linalyl acetate ) ลินาโลออล (linalool) และเจอรานิออล (geraniol) และสารที่ทำให้มีกลิ่นหอม คือคูมาริน (coumarin) และเอทิลวานิลลิน (ethyl vanillin)
สรรพคุณ
ใบเตยให้กลิ่นหอมหวาน และหอมเย็น ช่วยลดการกระหายน้ำ เมื่อรับประทานน้ำใบเตยจะรู้สึกชื่นใจและชุ่มคอ รักษาโรคหัด หรือ โรคผิวหนัง โดยนำใบเตยมาตำแล้วมาพอกบนผิว ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ เพราะใบเตยมีฤทธิ์ลดอัตราการเต้นของหัวใจ จึงช่วยบำรุงหัวใจได้อย่างดี วิธีรับประทานคือ ใช้ใบสดผสมในอาหาร แล้วรับประทาน หรือนำใบสดมาคั้นน้ำรับประทาน ครั้งละ 2-4 ช้อนแกง ลดน้ำตาลในเส้นเลือด เอาใบเตย หอม สด 30 กรัม ต้มกับน้ำ 1 ลิตร จนเดือดแล้วดื่มขณะอุ่นก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ 3 เวลา ต้มดื่มเป็นประจำน้ำตาลในเลือดจะลดลงได้ (สามารถกินควบกับยาหมอให้ได้ไม่มีปัญหาอะไร คือ ใคร ที่น้ำตาลในเลือดสูง หรือ เป็นโรค “เบาหวาน” ยังไม่ถึงขั้นฉีดอินซูลินเข้าเส้นเลือด) รักษาระดับความดันให้เป็นปกติส่วนรากใช้เป็นยาขับปัสสาวะ โดยการนำต้นเตยหอม 1 ต้น หรือราก ครึ่งกำมือ ไปต้มกับน้ำดื่มใช้รากรักษาโรคเบาหวาน เพราะรากและลำต้นของเตยหอมนั้น มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด วิธีรับประทานก็คือ ใช้ราก 1 กำมือนำไปต้มเป็นน้ำดื่ม ทุกเช้า-เย็น ช่วยแก้อ่อนเพลีย ดับพิษไข้ และชูกำลังได้อีกด้วย
* * * * * *
ที่มา : greenshopcafe.com